สาระน่ารู้
ปัจจัยภายนอก ที่มีผลต่อการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
(1) สภาพภูมิอากาศ
การสร้างอาคารโดยคำนึงถึงสภาพภูมิอากาศของท้องถิ่นนั้น ๆ ถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญกับการสร้างอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารสำนักงานเพื่อการประหยัดพลังงาน เนื่องจากการสร้างอาคารที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็นเขตร้อนหรือเขตหนาว จะช่วยในการลดพลังงานเพื่อระบบการทำความเย็นสำหรับเขตร้อน หรือแม้แต่ระบบทำความร้อนในเขตที่อยู่อาศัยของเขตหนาว
(2) ทิศทางแดดและลมประจำถิ่น
ผู้ออกแบบควรหลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งด้านยาวของอาคารให้หันหน้าเข้าหาทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เนื่องจากจะมีแสงแดดร้อนจัดในเวลาบ่าย ทำให้สิ้นเปลืองค่าไฟฟ้าในการใช้เครื่องปรับอากาศ เพื่อลดอุณหภูมิภายในห้องลงมากกว่าปกติ
(3) สภาพภูมิประเทศ
การออกแบบอาคารให้มีการอนุรักษ์พลังงานให้เต็มที่ องค์ประกอบที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องถูกนำมาพิจารณาคือ สภาพภูมิประเทศที่อาคารจะต้องสร้างขึ้นเหนือพื้นที่นั้น การปรับสภาพภูมิประเทศให้เหมาะสมกับการปลูกสร้างอาคารอนุรักษ์พลังงาน สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น การปรับความลาดเอียงของพื้นดินให้เอียงไปทางทิศเหนือ (North Slope) เพื่อให้รับแสงแดดน้อยลงอันส่งผลให้อาคารมีภาระในการทำความเย็นน้อยลง
หรือ การปรับแต่งเนินดินรอบอาคารเพื่อช่วยส่งเสริมให้กระแสลมเย็นสามารถพัดผ่านตัวอาคารได้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นต้น
(4) การใช้ภูมิทัศน์โดยรอบอาคาร
ใน 1 ปี ประเทศไทยจะมีลมพัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้จำนวน 9 เดือน แหละอีก 3 เดือนที่เหลือเป็นลมหนาวที่เกิดจากความกดอากาศสูงในประเทศจีน โดยพัดมาในทิศทางตรงกันข้าม การใช้ประโยชน์เพื่อการออกแบบ เช่น จัดพื้นผิวดินรอบอาคารโดยเฉพาะด้านที่ลมประจำพัดผ่าน 9 เดือน มายังอาคารให้ใช้วัสดุปูผิวที่ชุ่มชื้น เช่น สนามหญ้า ไม้คลุมดิน ไม่ควรปูผิวด้วยวัสดุสะท้อนความร้อน ประเภทผิวคอนกรีต เพราะจะพัดพาลมร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร เป็นต้น
(5) พืชพันธุ์ธรรมชาติ
การเลือกพันธ์ไม้ที่นำมาปลูกเพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพและเหมาะสม เช่น ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีทรงแผ่กว้างและพุ่มใบโปร่งบริเวณรอบ ๆ อาคาร เพื่อให้ร่มเงาช่วยลดความร้อนที่เกิดจากรังสีตรงจากดวงอาทิตย์ (Direct Sun) แต่ในขณะเดียวกันนั้น ก็ไม่กักเก็บความชื้น หรือ การใช้ไม้พุ่มเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เย็น โดยให้มีลมพัดผ่านทำให้เกิดการระเหยของน้ำ ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิของอากาศที่พัดเข้าสู่ตัวอาคารลดลงได้อีก เป็นต้น